ในวิถีชีวิตของบราห์มา กุมารี มีหลักการในการดำเนินชีวิตที่พิเศษใดหรือไม่
การเดินทางเข้าสู่การตระหนักรู้ในตนเองนั้น เกี่ยวข้องกับหลักการในวิถีชีวิตบางประการ ซึ่งเราให้คำแนะนำแต่ไม่บังคับใช้ สภาพแวดล้อมของบราห์มา กุมารีนั้น ได้รับการหล่อเลี้ยงโดยหลักการเหล่านี้
- การศึกษาเล่าเรียนทางจิตวิญญาณและการฝึกฝนปฏิบัตินั้น เป็นรากฐานของการเดินทางทางจิตวิญญาณของแต่ละคน มันเป็นความรับผิดชอบของแต่ละบุคคลเอง ที่จะแยกแยะและเลือกว่าหลักการในการดำเนินชีวิตเหล่านี้ พวกเขามีความพร้อมเพียงใดในการปฎิบัติตาม และด้วยความเร็วที่เหมาะสมกับตนเอง หลักในการดำเนินชีวิต 2 ประเด็นหลักที่พบเห็นได้คือ
- อาหารบริสุทธิ์ (Satwic Diet) : อาหารมังสวิรัติ (vegetarian or vegan) มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาวะที่ดีโดยรวม และช่วยพัฒนาความกระจ่างชัดเจน และความสามารถในการจดจ่อเพ่งรวมในการทำสมาธิ การไม่ใช้สารต่างๆที่ให้โทษ ซึ่งรวมถึงการงดเว้นอัลกอฮอลล์ และยาสูบ
- การถือพรหมจรรย์ : ถูกแสดงให้เห็นเป็นพื้นฐานของการปลูกฝังวิถีที่ผู้คนจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในความบริสุทธิ์ และปลอดภัย การเลือกเช่นนี้สามารถทำให้ทุกคนเข้มแข็งขึ้น มีอำนาจแห่งตน และมีความมั่นใจในตนเองเพิ่มขึ้น มันปลดปล่อยผู้คนทั้งที่เป็นหญิงและชาย จากการพึ่งพิงซึ่งกันและกันที่มากเกินไป และเป็นการส่งเสริมความทัดเทียมกันให้เพิ่มขึ้น บราห์มา กุมารี มองการถือพรหมจรรย์เป็นพื้นฐานของการตระหนักรู้ในตนเอง และการกลับมาสร้างความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความรักกับพระเจ้า และเพื่อสร้างวัฒนธรรมของความสงบและไม่ก้าวร้าวรุนแรง
ทุกคนต้องปฏิบัติตามวิถีชีวิตของบราห์มา กุมารี เพื่อจะเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนบีเคหรือไม่
ไม่จำเป็น ชุมชนนี้เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ ผู้ซึ่งทุกคนที่เกี่ยวข้องในกระบวนการของการพัฒนาทางจิตวิญญาณแต่ละคน เลือกได้ว่าต้องการสิ่งใดจากหลักสูตรที่มีให้ ตามความสนใจของตนเอง มันเป็นสภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง ที่ผู้คนจากที่มาต่างๆกันสามารถเข้ามา และนำมาซึ่งความพิเศษและหลากหลายต่างๆ ระดับของการผูกมัดตนเอง ขึ้นกับการตัดสินใจของแต่ละคนเป็นส่วนตัว
มีกฎการแต่งกายใดเป็นพิเศษหรือไม่
ไม่มีกฎการแต่งกายพิเศษใด การแต่งกายที่ไม่จำเป็นต้องเป็นทางการ แต่สุภาพเรียบร้อยนั้น ก็เป็นที่ยอมรับว่าเหมาะสมโดยทั่วไปเมื่อเข้าร่วมอบรมหลักสูตรหรือกิจกรรมต่างๆของบีเค สีขาวนั้นเป็นสีที่นิยมใช้กันเป็นส่วนใหญ่ในชุมชนของบีเค เนื่องจากมันสะท้อนถึงความมุ่งหมายภายใน ต่อการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย บริสุทธิ์ สะอาด และจริงแท้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่การฝึกสมาธิแบบราชาโยคะนั้นสร้างให้เกิดขึ้น
บราห์มา กุมารี มีมุมมองเชิงศาสนาอย่างไร
บราห์มา กุมารี เน้นความสำคัญของเนื้อหาส่วนที่เป็นธรรมะของศาสนา การสอนที่เน้นย้ำเพื่อบ่มเพาะหลักการอันเป็นสากล ที่ถูกสอนโดยพระเจ้าต่อมวลมนุษย์ เพื่อการกลับมาคืนชีวิตที่แท้จริงให้กับดวงวิญญาณ จุดประสงค์ของธรรมะนั้น คือการตระหนักว่าความเป็นจิตวิญญาณ คือกุญแจที่นำไปสู่ความยุติธรรม ความสงบ และความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษยชาติ
ทุกดวงวิญญาณไม่ว่าจะศาสนาใด ถูกหล่อหลอมในทางจิตวิญญาณ เป็นไปตามความสัมพันธ์ของเขาหรือเธอ ที่มีกับสิ่งสูงสุด ตลอดจนความเข้าใจที่มี และการสร้างสมศรัทธาและประสบการณ์ชีวิต หนทางข้างหน้า คือการกลับคืนสู่ความเป็นจิตวิญญาณด้วยหัวใจของศรัทธาในความเชื่อที่ยิ่งใหญ่นั้น พูดในทางปฏิบัติก็คือ สิ่งนี้หมายถึงการดำเนินชีวิตในอุดมคติสูงสุด ที่ศรัทธาและความเชื่อนั้นได้ให้แรงบันดาลใจแก่ดวงวิญญาณ ในเรื่องของความรัก ความเมตตา สัจจะ และความไม่ก้าวร้าวรุนแรง
การทำสมาธิโดยมีความรู้เป็นฐานนั้นทำงานอย่างไร
บราห์มา กุมารี มีคำสอนซึ่งตั้งอยู่ในบริบทว่า เวลานี้คือจุดเปลี่ยน ที่การเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ในการยกระดับจิตสำนึกนั้นกำลังจะเกิดขึ้นบนโลก คำสอนหลักอย่างหนึ่งนั้นก็คือ ต้นไม้ของมวลมนุษย์นั้นมีเมล็ดหนึ่งเดียว - พระเจ้า ดวงวิญญาณสูงสุด ผู้ซึ่งดำรงอยู่ในคุณสมบัติที่สูงส่งงดงามอย่างเป็นนิรันดร์ ในฐานะลูกๆของเมล็ดหนึ่งเดียวนี้ มนุษยชาติคือครอบครัวเดียวกัน ด้วยการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อน จากการพึ่งพิงสิ่งต่างๆภายนอก สู่การตระหนักรู้ทางจิตวิญญาณภายใน มนุษย์จะตระหนักถึงตนเองที่แท้จริง และตระหนักถึงต้นกำเนิดคือพระเจ้า และนำพาตนเองกลับคืนสู่ธรรมชาติดั้งเดิมของความสงบ ความเคารพ และความรัก
การทำสมาธิแบบราชาโยคะนั้น จำเป็นที่ผู้ปฏิบัติต้องศึกษาความรู้ทางจิตวิญญาณ ความเข้าใจในความรู้นี้เป็นสิ่งจำเป็นในการฝึกฝนและการนำไปใช้ วัตถุประสงค์ของราชาโยคะคือความสามารถในการปกครองตนเอง และการเป็นนายของตนเอง และดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่แต่ละคนต้องแยกแยะใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้ในการเดินทางทางจิตวิญญาณของเขาหรือเธอ กระบวนการของการเรียนรู้นี้นั้นเป็นสิ่งที่เรียบง่าย จากการฟังและทำความเข้าใจในคำสอน พิจารณาไตร่ตรอง และทำให้เกิดความเข้าใจในการนำคำสอนไปปฏิบัติในชีวิตจริง การบ่มเพาะและซึมซับกับคำสอนเหล่านั้น และปลุกเรียกคุณสมบัติภายในขึ้นสู่การตระหนักรู้แห่งตน การมีประสบการณ์กับความหมายของการเห็นทะลุบางอย่างด้วยปัญญา และการตัดสินใจเกี่ยวกับคุณภาพของการกระทำของตนเอง กระบวนการนี้เริ่มต้นขึ้นในระดับบุคคล พร้อมกับพลวัตของกลุ่มที่จะถูกสร้างขึ้นโดยรวม และในที่สุด จะนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านของโลก ที่เวลานี้แตกแยกด้วยความโกรธ ความผูกพันยึดมั่น ความหยิ่งทนง ความโลภ และตัณหาราคะต่างๆ ไปสู่โลกที่อ่อนโยน นิ่มนวล ที่เต็มไปด้วยคุณธรรมที่สูงส่งงดงามละเอียดอ่อนของมนุษย์ เช่นความสุข ความรัก ความสงบ และความบริสุทธิ์
บทบาทของครูที่สอนการทำสมาธินี้คืออะไร
คำว่าครูนั้น ถูกใช้สำหรับผู้ที่จัดกระบวนการในการนำพาผู้ที่เข้ามาเรียนเข้าสู่บทเรียนต่างๆของหลักสูตรการทำสมาธิแบบราชาโยคะ บทบาทของครูนั้น เป็นไปในลักษณะคล้ายกับโค้ชทางจิตวิญญาณ